มีการส่งสติกเกอร์หลายพันล้านรูปในแต่ละวันบน WhatsApp ซึ่งฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแชร์ความคิดเห็นและความรู้สึกส่วนตัวได้โดยไม่ต้องพิมพ์ข้อความ ตั้งแต่การเปิดตัวของฟีเจอร์ดังกล่าวเมื่อ 18 เดือนที่แล้ว สติกเกอร์กลายเป็นหนึ่งในวิธีที่ผู้คนใช้ติดต่อสื่อสารกันมากที่สุดบน WhatsApp
เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับองค์การอนามัยโลก (WHO) เพื่อเปิดตัวชุดสติกเกอร์ "ร่วมใจอยู่บ้าน" ที่จะช่วยให้ผู้คนติดต่อกันในช่วงภาวะการระบาดใหญ่ของโควิด-19 และสถานการณ์อื่นๆ ในอนาคต สติกเกอร์ในลักษณะนี้แฝงความตลก ให้ความรู้ และเป็นสากล ทำให้สามารถก้าวข้ามภาษา อายุ และอุปสรรคในการสื่อสารต่างๆ ได้
เราหวังว่าผู้ใช้จะสนุกกับการใช้สติกเกอร์เหล่านี้เพื่อติดต่อกับบุคคลที่รัก โดยเฉพาะผู้ที่รู้สึกโดดเดี่ยว เหงา และหวาดกลัวเนื่องมาจากสถานการณ์ในปัจจุบัน ชุดสติกเกอร์นี้ถือเป็นวิธีที่สร้างสรรค์ซึ่งจะคอยเตือนให้ผู้คนล้างมือ รักษาระยะห่าง ออกกำลังกาย รวมทั้งตระหนักถึงความสำคัญของบุคลากรทางการแพทย์และบุคคลอื่นๆ ซึ่งเป็นฮีโร่ของเรา
ชุดสติกเกอร์ "ร่วมใจอยู่บ้าน" สามารถดาวน์โหลดได้แล้วตอนนี้ใน WhatsApp โดยข้อความในสติกเกอร์ยังได้รับการแปลเป็นภาษาต่างๆ ถึง 9 ภาษา ได้แก่ อารบิก ฝรั่งเศส เยอรมัน อินโดนีเซีย อิตาลี โปรตุเกส รัสเซีย สเปน และตุรกี
สถานการณ์ที่ผู้คนกว่าพันล้านทั่วโลกไม่สามารถพบปะกับเพื่อนและครอบครัวได้เนื่องมาจากการระบาดของโควิด-19 ทำให้ WhatsApp เป็นเครื่องมือสำคัญในการติดต่อสื่อสารสำหรับผู้ใช้มากยิ่งขึ้นไปอีก หลายคนพูดคุยกับแพทย์ ครู-อาจารย์ และบุคคลที่รักที่อยู่ห่างกันผ่าน WhatsApp ในช่วงวิกฤตการณ์นี้ และนี่คือเหตุผลว่าทำไมข้อความและการโทรทั้งหมดของคุณบน WhatsApp จึงได้รับการเข้ารหัสจากต้นทางถึงปลายทางโดยค่าเริ่มต้น เพื่อให้คุณมีการสนทนาแบบส่วนตัวมากที่สุดอย่างปลอดภัย
ในปีที่ผ่านมา เราได้นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับข้อความที่ได้รับการส่งต่อหลายครั้ง ข้อความเหล่านี้มีป้ายกำกับด้วยลูกศรคู่
ในฐานะผู้ให้บริการส่งข้อความแบบส่วนตัว ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา เราได้ดำเนินการหลายขั้นตอนเพื่อช่วยให้การสนทนามีความเป็นส่วนตัวอยู่เสมอ ตัวอย่างเช่น เราได้กำหนดขีดจำกัดสำหรับข้อความส่งต่อเพื่อจำกัดความไวรัลของข้อความ ทั้งนี้ ณ เวลาที่นำมาตรการดังกล่าวมาใช้ เราพบว่ามีการส่งต่อข้อความโดยรวมลดลง 25% ทั่วโลก
การส่งต่อข้อความทั้งหมดเป็นสิ่งที่ไม่ดีใช่ไหม คำตอบคือ ไม่เลย เราทราบว่าผู้ใช้จำนวนมากส่งต่อข้อความที่เป็นประโยชน์ รวมถึงวิดีโอที่สนุก มีม และความคิดเห็นหรือการให้กำลังใจที่ผู้ใช้เห็นว่ามีความสำคัญ เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ ผู้คนมากมายได้ใช้ WhatsApp เพื่อจัดช่วงเวลาร่วมกันเพื่อส่งกำลังใจสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์แถวหน้า อย่างไรก็ตาม เราได้เห็นการเพิ่มขึ้นอย่างมากของการส่งต่อข้อความ ซึ่งเราทราบว่าผู้ใช้สามารถรู้สึกได้ถึงความท่วมท้นของข้อมูล และการส่งต่อสามารถมีส่วนร่วมในการเผยแพร่ข้อมูลผิดๆ ได้ เราเชื่อว่าการลดจำนวนการเผยแพร่ข้อความเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ WhatsApp เป็นแหล่งสำหรับการสนทนาส่วนตัว
นอกจากการเปลี่ยนแปลงนี้ เรากำลังทำงานโดยตรงร่วมกับเอ็นจีโอ (NGO) และหน่วยงานภาครัฐ รวมถึงองค์การอนามัยโลก (WHO) และกระทรวงสาธารณสุขของประเทศต่างๆ กว่า 20 ประเทศเพื่อช่วยให้ผู้คนได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง หน่วยงานที่เชื่อถือได้เหล่านี้ได้ส่งข้อความหลายร้อยล้านรายการไปยังผู้ที่ขอข้อมูลและคำปรึกษาโดยตรง คุณสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับความพยายามเหล่านี้ รวมถึงวิธีส่งข้อความที่อาจเป็นความเชื่อผิดๆ การหลอกลวง และข่าวลือไปยังองค์กรตรวจสอบข้อเท็จจริงในศูนย์ข้อมูลไวรัสโคโรน่าของเรา
เราเชื่อว่าขณะนี้ความสามารถในการติดต่อสื่อสารแบบส่วนตัวมีความสำคัญยิ่งกว่าเคย ทีมงานของเรากำลังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อทำให้ WhatsApp ใช้งานได้อย่างต่อเนื่องในช่วงวิกฤตการณ์ระดับโลกที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนี้ เรายินดีรับฟังข้อเสนอแนะของคุณและจะพัฒนาวิธีแชร์ข้อมูลระหว่างกันบน WhatsApp อย่างต่อเนื่อง
เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะแจ้งให้ทราบว่าเราได้อัปเดต WhatsApp เพื่อเพิ่มฟีเจอร์ตามคำเรียกร้องของผู้ใช้ทั่วโลก ซึ่งได้แก่ฟีเจอร์โหมดมืด
โหมดมืดสำหรับ WhatsApp นำเสนอรูปลักษณ์ใหม่สำหรับประสบการณ์ใช้งานที่คุณคุ้นเคย ซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยถนอมสายตาในสภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อย และเราหวังว่าจะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงสถานการณ์ไม่พึงประสงค์ที่โทรศัพท์ของคุณส่องแสงสว่างรบกวน
ระหว่างการดีไซน์โหมดมืด เราได้ใช้เวลาในการค้นคว้าและทดลองโดยมุ่งไปที่สองประเด็นสำคัญ ได้แก่
ความสามารถในการอ่าน: ในขั้นตอนการเลือกสี เราคำนึงถึงสีที่จะช่วยลดความล้าของสายตาได้มากที่สุด และได้ใช้สีที่ใกล้เคียงกับค่าเริ่มต้นของระบบใน iPhone และ Android ตามลำดับ
ลำดับความสำคัญของข้อมูล: เราต้องการช่วยให้ผู้ใช้มุ่งความสนใจไปยังสิ่งที่สำคัญในแต่ละหน้าจอได้อย่างง่ายดาย เราจึงเลือกสีและองค์ประกอบของดีไซน์อื่นๆ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่สำคัญมีความโดดเด่น
ผู้ใช้ Android 10 และ iOS 13 สามารถใช้โหมดมืดได้โดยการตั้งค่าระบบ ผู้ใช้ Android 9 และเวอร์ชันที่เก่ากว่าสามารถไปที่การตั้งค่าของ WhatsApp > แชท > ธีม > เลือก ‘มืด’
เราหวังว่าคุณจะถูกใจกับโหมดมืดที่จะพร้อมใช้งานใน WhatsApp เวอร์ชันล่าสุดในช่วงไม่กี่วันข้างหน้านี้
เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะแจ้งให้ทราบว่า ตั้งแต่วันนี้ WhatsApp รองรับการใช้งานของผู้ใช้กว่า 2 พันล้านคนทั่วโลก
สมาชิกในครอบครัวสามารถติดต่อหากันได้ไม่ว่าจะอยู่ที่มุมใดของโลก และยังสามารถแบ่งปันช่วงเวลาต่างๆ ที่มีค่า เพื่อนร่วมงานสามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนไอเดีย และธุรกิจสามารถเติบโตจากการเชื่อมต่อกับลูกค้าได้อย่างง่ายดาย
การสนทนาแบบส่วนตัวที่เคยต้องอาศัยการพบปะพูดคุย ตอนนี้สามารถเกิดขึ้นได้ไม่ว่าระยะทางจะไกลเพียงใดผ่านการแชทและวิดีโอคอล ช่วงเวลาที่สำคัญและพิเศษสุดมากมายเกิดขึ้นบน WhatsApp เราขอขอบคุณและรู้สึกเป็นเกียรติเป็นอย่างยิ่งที่ได้เดินทางมาถึงก้าวสำคัญนี้
เรารู้ดีว่ายิ่งมีการเชื่อมต่อมากเท่าไหร่ เราก็มีสิ่งให้ต้องปกป้องมากขึ้นเท่านั้น ขณะที่โลกออนไลน์เข้ามามีส่วนสำคัญในชีวิตของเรามากขึ้นเรื่อยๆ การปกป้องการสนทนาของเราจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
ด้วยเหตุนี้ ข้อความส่วนตัวที่ส่งด้วย WhatsApp จึงได้รับการเข้ารหัสจากต้นทางถึงปลายทางเป็นค่าเริ่มต้น การเข้ารหัสที่หนาแน่นทำหน้าที่คล้ายตัวล็อคดิจิทัลที่ไม่สามารถถอดรหัสได้ ซึ่งช่วยปกป้องข้อมูลที่คุณส่งผ่าน WhatsApp ให้ปลอดภัยจากแฮกเกอร์และอาชญากร ข้อความจะเก็บในโทรศัพท์ของคุณเท่านั้น และไม่มีบุคคลอื่นสามารถอ่านข้อความหรือฟังการโทรของคุณได้ รวมถึงเราด้วย การสนทนาของคุณจึงมีความเป็นส่วนตัวสำหรับคุณและผู้รับ
การเข้ารหัสที่หนาแน่นมีความจำเป็นอย่างยิ่งในชีวิตปัจจุบัน เราจะไม่ลดการให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเพราะจะทำให้ผู้คนมีความปลอดภัยลดลง และเพื่อการป้องกันที่มากขึ้น เราได้ร่วมงานกับผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย ใช้เทคโนโลยีชั้นนำในอุตสาหกรรมเพื่อหยุดการใช้งานที่ไม่เหมาะสม รวมทั้งมอบแนวทางให้คุณได้ควบคุมการใช้งานและรายงานปัญหาต่างๆ โดยไม่ให้กระทบถึงความเป็นส่วนตัว
WhatsApp เริ่มต้นจากเป้าเหมายในการสร้างบริการที่ใช้งานง่าย เชื่อถือได้ และเป็นส่วนตัวสำหรับผู้ใช้ และในวันนี้ เรายังคงเชื่อมั่นในจุดยืนดังกล่าว เพื่อช่วยเชื่อมต่อโลกทั้งใบอย่างเป็นส่วนตัว และเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของการสื่อสารระหว่างผู้ใช้กว่า 2 พันล้านคนทั่วโลก
ลูกค้าต่างยินดีที่มีโอกาสได้แชทกับธุรกิจขนาดเล็กที่ชื่นชอบผ่าน WhatsApp แต่การที่ต้องรับและส่งข้อความ รวมทั้งรูปภาพหลายๆ ครั้งก็ทำให้การขอทราบข้อมูลผลิตภัณฑ์เป็นเรื่องน่าเบื่อได้ วันนี้เราได้ทำให้การเรียนรู้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการที่ธุรกิจต่างๆ นำเสนอนั้นเป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้นด้วยแค็ตตาล็อกในแอป WhatsApp Business
แค็ตตาล็อกเป็นเหมือนหน้าร้านที่เคลื่อนที่ได้สำหรับธุรกิจเพื่อแสดงและแบ่งปันสินค้าของตน เพื่อให้ผู้คนสามารถเลือกชมและค้นพบสิ่งที่ต้องการซื้อ ก่อนหน้านี้ ธุรกิจต้องส่งรูปภาพของผลิตภัณฑ์ทีละภาพ และต้องให้ข้อมูลเดิมซ้ำๆ แต่ตอนนี้ ลูกค้าสามารถดูแค็ตตาล็อกอย่างเต็มรูปแบบได้ภายใน WhatsApp นอกจากนี้ แค็ตตาล็อกยังช่วยให้เจ้าของธุรกิจมีภาพลักษณ์ความเป็นมืออาชีพมากขึ้น และยังช่วยให้ลูกค้ามีส่วนร่วมผ่านทางแชทโดยไม่จำเป็นต้องเปิดดูเว็บไซต์
ดังเช่น Agradaya ซึ่งเป็นบริษัทจำหน่ายสมุนไพรและเครื่องเทศในประเทศอินโดนีเซีย เราได้ให้สิทธิ์การเข้าใช้งานฟีเจอร์แค็ตตาล็อกก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการแก่คุณ Andhika Mahardika ผู้ก่อตั้งบริษัท Agradaya และเขาได้บอกเราว่าแค็ตตาล็อกช่วยให้ลูกค้าเรียนรู้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ราคา และดูภาพของสินค้าได้ง่ายขึ้น ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญในการบริการลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น
ธุรกิจสามารถเพิ่มข้อมูลต่างๆ เช่น ราคา คำอธิบาย และรหัสผลิตภัณฑ์ไปยังสินค้าแต่ละรายการในแค็ตตาล็อกได้ WhatsApp จะเป็นผู้จัดเก็บแค็ตตาล็อกเหล่านี้เพื่อช่วยให้ทั้งธุรกิจและลูกค้าประหยัดพื้นที่จัดเก็บข้อมูลในโทรศัพท์
คุณสามารถสร้างแค็ตตาล็อกกับแอป WhatsApp Business ได้ง่ายๆ ในไม่กี่ขั้นตอน โปรดดูวิดีโอเพื่อเริ่มต้นใช้งาน:
ธุรกิจที่ใช้แอป WhatsApp Business สามารถใช้ฟีเจอร์แค็ตตาล็อกนี้ได้แล้ววันนี้ทั้งใน Android และ iPhone ในประเทศบราซิล เยอรมนี อินเดีย อินโดนีเซีย เม็กซิโก สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา โดยจะพร้อมให้บริการทั่วโลกเร็วๆ นี้ เราตื่นเต้นที่จะได้ฟังเรื่องราวว่าแค็ตตาล็อกสามารถช่วยธุรกิจขนาดเล็กในการเชื่อมต่อกับลูกค้าและทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างไร
7 พฤศจิกายน 2019
เมื่อต้นปีนี้เราได้เปิดตัวการใช้ Touch ID และ Face ID สำหรับ iPhone เพื่อเพิ่มความปลอดภัยอีกขั้นสำหรับผู้ใช้ WhatsApp และวันนี้เราขอแนะนำการยืนยันความถูกต้องในการใช้งานในลักษณะที่คล้ายกันสำหรับ Android เพื่อให้คุณสามารถปลดล็อคแอปด้วยลายนิ้วมือได้ หากต้องการเปิดใช้งานให้แตะที่ การตั้งค่า > บัญชี > ความเป็นส่วนตัว > การล็อคด้วยลายนิ้วมือ เปิดใช้งาน “ปลดล็อคด้วยลายนิ้วมือ” และยืนยันลายนิ้วมือของคุณ
การสนทนาแบบกลุ่มใน WhatsApp มีส่วนช่วยเชื่อมต่อการสื่อสารระหว่างครอบครัว เพื่อน เพื่อนร่วมงาน เพื่อนร่วมชั้น และอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง และเมื่อผู้คนหันมาใช้กลุ่มเพื่อการสนทนาที่สำคัญ ผู้ใช้จึงต้องการควบคุมประสบการณ์การใช้งานของตนให้ได้มากยิ่งขึ้น วันนี้เราขอแนะนำการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวใหม่และระบบคำเชิญเพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าใครบ้างที่สามารถเพิ่มคุณลงในกลุ่มได้
หากต้องการเปิดใช้งาน โปรดไปที่การตั้งค่าในแอปของคุณ จากนั้นแตะ บัญชี > ความเป็นส่วนตัว > กลุ่ม และเลือกจากสามตัวเลือกต่อไปนี้: “ทุกคน”, “รายชื่อของฉัน” หรือ “รายชื่อของฉันยกเว้น” โดยที่ “รายชื่อของฉัน” หมายถึงผู้ใช้ซึ่งอยู่ในสมุดที่อยู่เท่านั้นที่สามารถเพิ่มคุณเข้ากลุ่มได้ ในขณะที่ “รายชื่อของฉันยกเว้น” เพิ่มการควบคุมให้คุณอีกขั้นว่าต้องการให้ใครบ้างในรายชื่อเพิ่มคุณเข้ากลุ่มได้
ทั้งนี้ ผู้ดูแลกลุ่มที่ไม่สามารถเพิ่มคุณเข้ากลุ่มได้จะได้รับข้อความแจ้งให้ส่งคำเชิญส่วนตัวผ่านแชทส่วนตัว ซึ่งคุณจะสามารถเลือกตอบรับเข้าร่วมกลุ่มได้ คุณมีเวลาในการตอบรับ 3 วันก่อนที่คำเชิญจะหมดอายุ
ฟีเจอร์เหล่านี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมข้อความกลุ่มที่ได้รับได้มากยิ่งขึ้น การตั้งค่าความเป็นส่วนตัวใหม่เหล่านี้จะเริ่มทยอยเปิดตัวสำหรับผู้ใช้บางรายภายในวันนี้ และจะสามารถใช้งานได้ทั่วโลกในอีกไม่กี่วันข้างหน้าสำหรับผู้ใช้ WhatsApp เวอร์ชันล่าสุด
อัปเดต: จากความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของผู้ใช้ระหว่างการเปิดตัวช่วงแรก ตัวเลือก “รายชื่อของฉันยกเว้น” จะแทนที่ “ไม่มี” ทั้งนี้ ตัวเลือกดังกล่าวทำให้คุณสามารถเลือกที่จะยกเว้นรายชื่อใดๆ โดยเฉพาะหรือ “เลือกทั้งหมด” การอัปเดตนี้จะสามารถใช้งานได้ทั่วโลกใน WhatsApp เวอร์ชันล่าสุด
อัปเดตล่าสุด: 5 พฤศจิกายน 2019
คำขอที่เราได้รับฟังมาจากเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กบ่อยที่สุดก็คือพวกเขาต้องการใช้แอพ WhatsApp Business ในอุปกรณ์ที่ตนเลือกได้
ตอนนี้ใช้งานได้แล้ว
วันนี้เราขอแนะนำแอพ WhatsApp Business สำหรับ iOS เหมือนกับเวอร์ชัน Android ที่ธุรกิจหลายล้านรายทั่วโลกได้ใช้งานเมื่อปีที่แล้ว แอพ WhatsApp Business สำหรับ iOS ดาวน์โหลดได้ฟรีจาก Apple App Store และจะมีฟีเจอร์ต่างๆ เพื่อช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กและลูกค้าสื่อสารกันได้ ได้แก่
แอพ WhatsApp Business ใช้งานได้แล้ววันนี้และดาวน์โหลดได้ฟรีจาก App Store ในบราซิล เยอรมนี อินโดนีเซีย อินเดีย เม็กซิโก สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา แอพนี้จะเปิดให้ใช้งานได้ทั่วโลกในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
ไม่ว่าจะเป็นร้านขนมหวานออนไลน์ในฮิเบเราเปรโต บราซิลที่มียอดขายเกือบ 60 เปอร์เซ็นต์ผ่าน WhatsApp Business หรือบริษัทซินนามอนโรในทิฮัวนา เม็กซิโกที่ให้เครดิต WhatsApp Business ว่าช่วยให้เปิดสาขาที่สอง เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กทั่วโลกต่างใช้แอพนี้เพื่อขยายธุรกิจให้เติบโต เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะเปิดตัวแอพ WhatsApp Business สำหรับธุรกิจขนาดเล็กและรับฟังเรื่องราวใหม่ๆ เกี่ยวกับ WhatsApp ที่ช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ
เป็นเวลา 10 ปีแล้วตั้งแต่ที่เราเริ่มเปิดตัว WhatsApp! ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมานี้ เราได้รับฟังความคิดเห็นจากผู้ใช้ WhatsApp ทั่วโลกในการติดต่อกับคนที่รัก เชื่อมต่อกับชุมชนของตน และสร้างธุรกิจต่างๆ เรื่องราวเหล่านี้ยังคงสร้างแรงบันดาลใจให้กับเรา และเพื่อฉลองความสำเร็จนี้ เรากำลังย้อนความทรงจำบางช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเราตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมานี้
เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะยังคงสร้างฟีเจอร์ที่ทำให้ WhatsApp ใช้งานง่ายและเป็นที่น่าวางใจมากขึ้นสำหรับทุกคน ขอขอบคุณผู้ใช้ทั่วโลกทุกคนที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางนี้กับเรา
ที่ WhatsApp เราใส่ใจอย่างยิ่งกับการส่งข้อความส่วนตัว และวันนี้เรามีความยินดีที่จะแนะนำ Touch ID และ Face ID บน iPhone เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้ใครใช้โทรศัพท์และอ่านข้อความของคุณได้
หากต้องการเปิดใช้ฟีเจอร์ iPhone ใน WhatsApp ให้แตะการตั้งค่า > บัญชี > ความเป็นส่วนตัว > การล็อคหน้าจอ แล้วเปิดใช้ Touch ID หรือ Face ID คุณสามารถเลือกระยะเวลาก่อนที่จะมีข้อความแจ้ง Touch ID หรือ Face ID หลังจากปิด WhatsApp
ฟีเจอร์นี้สามารถใช้งานได้บน iPhone 5s ขึ้นไปและ iOS 9 ขึ้นไปนับจากวันนี้